แบตเตอรี่

สมาร์ทโฟนจะใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน ซึ่งแบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่เมื่อใช้นานๆ ไปแล้วก็จะทำให้แบตเสื่อมได้ การเปลี่ยนแบตเตอรี่จึงต้องทำที่ศูนย์บริการเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งบางทีก็ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ วันนี้เรามาถนอมแบตเตอรี่กันเลยดีกว่า

1.เลี่ยงอุณหภูมิร้อนจัด หรือเย็นจัด

อุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนโดยตรง ปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นในแบตเตอรี่จะเป็นไปตามกระแสไฟฟ้าและอุณหภูมิ เมื่อมีไฟฟ้าไหลผ่านแบตเตอรี่ ก็จะเกิดความร้อนตามมา ความร้อนจะทำให้ปฏิกิริยาทางเคมีอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ เช่นการสึกกร่อนของขั้วอิเล็กโทรดเกิดไวขึ้น และยังทำให้ของเหลวในแบตเตอรี่ระเหยไวขึ้น ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้นนั่นเอง

2.ชาร์จแบตก่อนที่แบตจะหมดเกลี้ยง

แบตมือถือปัจจุบันสามารถชาร์จได้ตลอดเวลา โดยแนะนำให้ระดับพลังงานอย่าให้เหลือต่ำกว่า 30% เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ได้ โดยเทคนิคดังกล่าวจะสามารถยืดอายุให้ใช้งานได้ประมาณ 400 Cycles แต่หากปล่อยให้ระดับพลังงานลดลงกว่า 30% บ่อยๆ จะเหลือประมาณ 300 Cycles ทั้งนี้ ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์ระหว่างชาร์จอยู่ เพราะจะทำให้เครื่องร้อน และแบตเตอรี่ถูกดึงพลังงานออกมาใช้ตลอดเวลา

3.ใช้อุปกรณ์ชาร์จของแท้เท่านั้น

อุปกรณ์ชาร์จปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นหัวชาร์จ หรือสายชาร์จ คือตัวอันตรายที่อาจทำให้มือถือลุกไหม้เป็นเถ้าถ่านได้ ถ้าไม่อยากเสี่ยงต้องเลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จของแท้เสมอ ทั้งนี้ของแท้ไม่จำเป็นต้องเป็นของแบรนด์นั้นๆ โดยตรง แบรนด์ Third Party อย่าง Baesus, Belkin, Aukey, Anker ก็มีมาตรฐานสูงทัดเทียมของแท้เช่นกัน

4.ไม่ต้องชาร์จเร็วเต็มพิกัดทุกครั้งก็ได้

ระบบชาร์จเร็วเป็นฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน แม้แต่มือถือระดับกลาง หรือระดับล่างก็มีใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่การชาร์จเร็วก็มีส่วนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ชาร์จด้วยกำลังไฟแบบปกติ หรือต่ำกว่ากำลังไฟสูงสุดที่รับได้บ้างเป็นครั้งคราว

5.เคลียร์แอปฯ ตั้ง Dark Mode ปิดWifi 

การเคลียร์แอปพลิเคชั่น โดยเฉพาะแอปที่ใช้งานบ่อยๆ สามารถลดการใช้พลังงานได้จริง เนื่องจากแอปพลิเคชั่นที่เปิดทิ้งไว้ จะทำงานอยู่ตลอด ทั้งตอนเปิดหน้าจอและปิดหน้าจอ อย่างกรณี Facebook เคยมีทดลองแล้วว่า หากลบการติดตั้งไป นอกจากจะทำให้แอปฯ อื่นใช้งานเร็วขึ้นถึง 15% และประหยัดพลังงานได้กว่า 20% เลยทีเดียว การปิดไวไฟก็ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกทาง หลายคนอาจใช้ไวไฟ (Wifi) ที่บ้าน ออฟฟิต ห้างสรรพสินค้า พอเคลื่อนตัวออกมาห่างสัญญาณ มือถือก็ยังคงค้นหาสัญญาณอยู่อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นการปิดไวไฟเมื่อไม่ใช้ เป็นวิธีประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง